วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2561

ฟอสฟอรัสแดง

ฟอสฟอรัสแดง

ฟอสฟอรัส (Phosphorus) เป็นธาตุอโลหะ เลขอะตอม 15 สัญลักษณ์
         ฟอสฟอรัสอยู่ในกลุ่มไนโตรเจน มีวาเลนซ์ ได้มาก ปรากฏในหลายอัลโลโทรป พบทั้งในหินฟอสเฟต และเซลล์สิ่งมีชีวิตทุกเซลล์ (ในสารประกอบในดีเอ็นเอเนื่องจากสามารถทำปฏิกิริยาได้สูง จึงไม่ปรากฏในรูปอิสระในธรรมชาติ
         คำว่า ฟอสฟอรัส มาจากภาษากรีก แปลว่า 'ส่องแสงและ 'นำพาเพราะฟอสฟอรัสเรืองแสงอ่อนๆ เมื่อมีออกซิเจน หรือมาจากภาษาละติน แปลว่า 'ดาวประกายพรึก
ในขณะที่ภาษาไทยในสมัยก่อน เรียก ฟอสฟอรัส ว่า 'ฝาสุภเรศ'
         ค้นพบประมาณปี 1669 โดยนักเล่นแร่แปรธาตุชาวเยอรมัน เฮนนิก แบรนด์
         ฟอสฟอรัสเป็นอโลหะอยู่ในหมู่ที่ VA หมู่เดียวกับธาตุไนโตรเจนในธรรมชาติไม่พบฟอสฟอรัสในรูปของธาตุอิสระ แต่จะพบในรูปของสารประกอบฟอสเฟตที่สำคัญได้แก่หินฟอสเฟต หรือแคลเซียมฟอสเฟต (Ca2(PO4)2) ฟลูออไรอะปาไทต์ (Ca5F (PO4)3)
   
ฟอสฟอรัสแดง  คือ พอลิเมอร์ของฟอสฟอรัสขาว เกิดจากการนำฟอสฟอรัสขาวมาเผาหรือทิ้งไว้นานๆเป็นผงสีแดงแก่ ไม่ละลายใน CS2หรือตัวทำละลายอินทรีย์ใดๆไม่ระเหย ไม่เป็นพิษและไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาไม่สามรถลุกไหม้ได้เองที่อุณหภูมิต่ำกว่า 240 c สามารถระเหิดได้ที่อุณหภูมิประมาณ 420 c มีโครงสร้างแบบโครงตาข่าย ใช้ทำผิวกล่องไม้ขีดไฟ


สมบัติของฟอสฟอรัสแดง
1. เป็นของแข็งสีแดง เป็นรูปที่เสถียรกว่าฟอสฟอรัสขาว

2. มีจุดหลอมเหลว 590 C ที่ 43 บรรยากาศ

3. มีความหนาแน่น 2.34 g/cm3

4. ไม่นำไฟฟ้า

5. ไม่ละลายในน้ำและ CS2

6. ลุกไหม้ในอากาศที่อุณหภูมิ 250 C


ประโยชน์  


ฟอสฟอรัสแดงใช้ในอุตสาหกรรมทำไม้ขีดไฟ  ธูป  ประทัด ระเบิดเพลิง หมอกควัน ใช้เตรียม P2O5 เพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นในการเตรียมกรดฟอสฟอริก (H3PO4)  ฟอสฟอรัสในรูปฟอสเฟตช่วยทำหน้าที่ ควบคุมความเป็นกรดเบสในเลือดและของเหลวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตใช้ทำปุ๋ยซุปเปอร์ฟอสเฟต Ca(H2PO4) 2 ใช้ทำสารฆ่าแมลงพวกออแกโน-ฟอสเฟต ซึ่งสลายตัวได้ง่าย ใช้ผสมในผงซักฟอกเพื่อช่วยกำจัดไอออนในน้ำกระด้าง ช่วยปรับสภาพความเป็นเบสของน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซักล้างและยังช่วยจับกับสิ่งสกปรกอื่นไม่ให้กลับไปจับกับเสื้อผ้าได้อีก





โครงสร้างฟอสฟอรัสแดง



👉  ารทำโมเดลฟอสฟอรัสแดง หากต้องการสร้างให้มีสมบัติ "สามารถติดไฟได้" เราจึงใช้อุปกรณ์ที่จะช่วยในการติดไฟได้ ต้องมีองค์ประกอบของไฟ ดังนี้
      1.ออกซิเจน ( Oxygen )ไม่ต่ำกว่า 16 % (ในบรรยากาศ  ปกติจะมีออกซิเจนอยู่ประมาณ 21 %)
      2.เชื้อเพลิง ( Fuel )  ส่วนที่เป็นไอ (เชื้อเพลิงไม่มีไอ ไฟไม่ติด)
      3.ความร้อน ( Heat ) เพียงพอทำให้เกิดการลุกไหม้
ไฟจะติดเมื่อองค์ประกอบครบ  อย่าง  ทำปฏิกิริยาทางเคมีต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ( Chain Reaction)
  
       ดังนั้นอุปกรณ์ที่จะช่วยในการติดไฟ คือ  "แอลกอฮอล์" ซึ่งสามารถติดไฟได้ดี เพราะมีสมบัติทางเคมีดังนี้ 
-แอลกอฮอล์สามารถติดไฟได้ดี ไม่มีเขม่าควันได้ผลิตภัณฑ์เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเป็นปฏิกิริยาคายพลังงาน

วิธีการดับไฟมี 3 วิธี คือ
       1.ทำให้อับอากาศ ขาดออกซิเจน
       2.ตัดเชื้อเพลิง กำจัดเชื้อเพลิงให้หมดไป
         3.ลดความร้อน ทำให้เย็นตัวลง                                                              ถ้าหากเราตัดองค์ประกอบของไฟอย่างใดอย่างหนึ่งออกไฟก็จะดับลงได้ ซึ่งควรดับให้สนิทเพราะเมื่อเวลาผ่านไปองค์ประกอบทั้ง3อย่างกับมารวมกันอีกครั้ง ไฟก็จะลุกขึ้นมาติดได้อีก



🔎🔎🔎


ขอบคุณข้อมูลจาก
1.https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA
2.http://www.kme10.com/mo4y2552/mo403/noname21.htm
3.http://www.satriwit3.ac.th/external_newsblog.php?links=1721
4.https://www.safe-t-cut-cm.com/องค์ประกอบของไฟมี3-อย่าง-2978.page



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สุมาอี้ ประวัติและบทบาท เป็นชาวอำเภออุน เมืองเหอเน่ย (โห้ลาย) มณฑลเหอหนาน มีชื่อรองว่า จ้งต๋า มีลักษณะ แววตาแหลมเล็กคล้ายต...